บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2018

ซุปผักอิตาเลี่ยน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

รูปภาพ
"ซุปผักอิตาเลี่ยน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?" ซุป (Soup) คืออาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ ผัก (ส่วนมากจะใช้แคร์รอตและมันฝรั่ง) น้ำสต็อก น้ำผลไม้ และน้ำ แต่บางซุปก็มีการเติมเนย ไข่ ข้าว และแป้ง จะเสิร์ฟในอุณหภูมิที่ร้อน โดยซุปจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ซุปใสและซุปข้น Minestrone ในภาษาอิตาลีเสียงเหมือน "ซุปใหญ่" หรือน้ำซุปหลากหลายของส่วนผสมชื่ออาจจะฟังไม่คุ้นหู แต่นี่คือซุปผักแบบง่ายๆ เป็นสูตรของชาวอิตาเลี่ยนเกี่ยวกับการทำอาหารเปลี่ยนไปผักตามฤดูกาลผักสดเท่านั้น ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งที่กินได้ เช่น กะหล่ำปลี,ถั่ว, มันฝรั่ง, อาร์ติโช้คเยรูซาเล็มผักกาดแครอทและผักรากอื่น ๆ ยกเว้นหัวผักกาดหัวผักกาดและ หัวไชเท้าและผลไม้อื่น ๆ ของโลกรสชาติของการปรุงอาหาร หนึ่งในนั้นคือต้มและอื่น ๆ ประโยชน์ของผักที่ใช้ทำซุป หอมหัวใหญ่ หัวหอมใหญ่มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่าง ๆ แคร์รอต ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตาของเราด้วย โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือที่เรียกว่า เรติน่า ซึ่งการที่ได้รับประทานแครอทบ่อย ๆ ยังช่วยถนอมดวงตา เซเลอรี่

สูตรเด็ดซี่โครงหมูบาร์บีคิว อาหารสุดฮิต ที่ทุกท่านต้องติดใจ

รูปภาพ
"สูตรเด็ดซี่โครงหมูบาร์บีคิว อาหารสุดฮิต ที่ทุกท่านต้องติดใจ" เชื่อว่าหลายท่านต้องเคยเห็น ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ผ่านตากันมาบ้างแล้ว วันนี้เราจะพาไปชมสูตรและขั้นตอนการทำเมนูนี้กันค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม • ซี่โครงหมูแบบแผ่น • ซอสมะเขือเทศ • วูสเตอร์ซอส • กระเทียมสับละเอียด • ออริกาโน • โรสแมรี่ • ออลสไปซ์ • เกลือ • พริกไทยขาวป่น • น้ำผึ้ง • น้ำเปล่า วิธีทำ • เริ่มจากการทำซอสบาร์บีคิว โดยผสมซอสมะเขือเทศกับซอสวูสเตอร์เข้าด้วยกัน ตามด้วย กระเทียมสับ ออริกาโน โรสแมรี่ ออลสไปซ์ เกลือ พริกไทยขาวป่น และน้ำผึ้ง คนผสมให้เข้ากันแล้วพักไว้ • ใส่ซอสลงในหม้อ ผสมน้ำกับซอสให้ละลายเข้ากัน จากนั้นนำซี่โครงใส่ลงไปในหม้อ และเคี่ยวต่อด้วย • นำซี่โครงที่ถูกเคี่ยวจนเนื้อนุ่มและซอสซึมเข้าเนื้อแล้วมาทาซอสบาร์บีคิวอีกทีเพื่อให้เกิดความชุ่มช่ำ • จากนั้นนำไปอบหรือย่างและเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด หลังจากที่อบหรือย่างเสร็จแล้ว ก็นำซอสบาร์บีคิวมาทาอีกครั้งหนึง แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วสำหร

"ส่วนต่างๆ ของเนื้อที่นิยมนำมาทำสเต๊กและอร่อยที่สุด"

รูปภาพ
"ส่วนต่างๆ ของเนื้อที่นิยมนำมาทำสเต๊กและอร่อยที่สุด" เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ (Tenderloin Steak) เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ เป็นเนื้อสันในที่มีความนุ่มอร่อยเป็นพิเศษ เพราะเป็นเนื้อส่วนที่วัวไม่ต้องออกแรงใช้กล้ามเนื้อมาก มีขนาดชิ้นเล็กที่สุด เนื้อส่วนที่ละเอียด นุ่มมากที่สุด ไม่มีไขมัน จัดเป็นประเภทเนื้อส่วนที่นุ่มที่สุด เป็นเนื้อส่วนที่ตัดจากกลางลำตัว เป็นส่วนที่อยู่ทั้งสองข้างของแนวกระดูกสันหลัง เนื้อเทนเดอร์ลอยด์มักจะจัดเสิร์ฟเป็นชิ้นหนาประมาณ 2 นิ้วขึ้นไป เพื่อความนุ่มที่สมบูรณ์แบบ T-Bone หรือ Porterhouse (ทีโบนสเต็ก หรือพอร์ตเตอร์เฮาส์) ทีโบนสเต็ก หรือพอร์ตเตอร์เฮาส์ ทีโบน (T-Bone) ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า T-Bone ก็เพราะว่าเนื้อ Steak จะติดมากับกระดูกที่มีลักษณะเหมือนตัวอักษรตัว T ท่านพอจะนึกภาพออกไหมครับ คือจะมีเนื้อติดมากับทั้งสองด้านของกระดูกตัว T โดยด้านหนึ่งจะเป็นเนื้อชิ้นเล็กซึ่งเป็น Tenderloin ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ ก็คือเนื้อส่วน Strip Loin นั่นเอง ทั้งส่วนนุ่มๆของเทนเดอร์ลอยน์ และส่วนที่เป็นไขมันชุ่มฉ่ำแบบสตริปลอยน์ด้วย และเนื้อส่วนนี้นั้นเป็นเนื

เลือกเนื้อสเต๊กยังไงให้อร่อยถูกใจ

รูปภาพ
" เลือกเนื้อสเต๊กยังไงให้อร่อยถูกใจ" ชื่อสเต๊กชนิดต่างๆ เรียกจากวิธีการตัดชิ้นเนื้อจากส่วนต่างๆ ของวัว โดยคุณภาพและราคาของเนื้อวัวแบ่งตามเกรดและความนุ่มของเนื้อ ยิ่งกล้ามเนื้อวัวส่วนไหนใช้งานน้อย ก็ยิ่งนุ่มและแพง เราสามารถแบ่งเนื้อวัวได้ตามระดับความนุ่ม ได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ1.ส่วนที่นุ่มที่สุด ได้มาจากส่วนหลังของวัว คือ เนื้อสัน (Loin) และซี่โครง (Rib) 2.นุ่มปานกลาง จะเป็นเนื้อบริเวณ โคนขาและสะโพก (Leg or Round) และเนื้อจากบริเวณหัวไหล่ (Chuck) 3.นุ่มน้อย เป็นเนื้อจากบริเวณตอนกลางลำตัวด้านท้อง (Flank) ด้านอก (Short plate) ส่วนต้นขาด้านหน้า (Brisket) ส่วนต้นขาหน้า (Shank) และส่วนคอ (Neck)และเนื้อสัน (Loin / ลอยน์): หมายถึงสะโพกวัว นิยมเอามาทำสเต๊กเพราะมีความนุ่มและแพงที่สุด ได้มาจากส่วนหลังของวัว ได้แก่ส่วน เนื้อสัน (Loin) และ ซี่โครง (Rib) เหมาะกับการนำไปทอด ,ย่าง, อบ Tenderloin คือ เนื้อสันใน เนื้อส่วนนี้จะนุ่ม เหมาะกับการนำมาทำเป็นสเต็กอย่างยิ่ง Round คือ เนื้อสะโพก เนื้อส่วนนี้จะเหนียว นิยมนำไปทำสตูว์ และนำไปอบ Shank คือ เนื้อน่อ

ออสโซบูโก คืออะไร ?

รูปภาพ
"ออสโซบูโก คืออะไร ?" ออสโซบูโก : Ossobuco เป็นอาหารอิตาลีที่มีต้นกำเนิดในเมืองมิลาน ปรุงจากเนื้อวัวหรือเนื้ออื่นๆ เช่นเนื้อแกะ ส่วนน่องหรือเนื้อน่องลายตัดตามขวาง นำมาคลุกแป้งแล้วทอดให้พอสุก จากนั้นนำไปอบพร้อมน้ำซุปที่ทำจากหอมหัวใหญ่ แคร์รอต ใบไทม์ กระเทียม โรสแมรี มะเขือเทศ และไวน์แดง กินกับรีซอตโต ชนิด Risotto alla milanese ออสโซบูโกมีสองแบบ แบบสมัยใหม่ใส่มะเขือเทศ แต่แบบดั้งเดิมไม่ใส่ แบบที่เก่ากว่า เรียก ossobuco in bianco จะแต่งกลิ่นด้วยอบเชย ใบเบย์ แบบสมัยใหม่เป็นที่นิยมที่สุด ออสโซบูโกเป็นภาษาอิตาลี แปลว่ากระดูกที่มีช่อง (osso กระดูก, buco ช่อง) ซึ่งเป็นการกล่าวถึงรูปร่างของน่องวัวเมื่อตัดตามขวาง และนี่ก็คือหนึ่งในอาหารอิตาเลี่ยนอันเลื่องชื่อที่สุด สำหรับออสสูโบโคนั้นเหมาะมากที่จะทานคู่กับไวน์แดงจากองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon มากๆ เลยนะคะ(osso กระดูก, buco ช่อง) ซึ่งเป็นการกล่าวถึงรูปร่างของน่องวัวเมื่อตัดตามขวาง อื้อหือ ! เห็นเนื้อแกะน่ากิน ๆ แบบนี้แล้วหิวเลยว่าไหมคะ ยิ่งถ้าเคี่ยวจนเนื้อแกะเปื่อยนุ่มแล้วด้วย แทบจะยั้งใจไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ #Veneziau

"ทีรามิสุ" เมนูของหวานสไตล์อิตาลี

รูปภาพ
"ทีรามิสุ" เมนูของหวานสไตล์อิตาลี "ทีรามิสุ" คือออะไร ? ตีรามีซู ชื่ออิตาลี: tiramisù, แปลตามตัวอักษรว่า "ดึงฉันขึ้นไปซิ" หรือ "พาฉันขึ้นไปซิ" โดยปริยายหมายถึง "ทำให้ฉันมีแรง (กายหรือใจ) ซิ" หรือ "ทำให้ฉันตื่นตัวซิ") เป็นขนมหวานรสกาแฟชนิดหนึ่งจากประเทศอิตาลี ทำจากแท่งขนมปังกรอบซาวอย (biscotto savoiardo) จุ่มน้ำกาแฟเอสเปรสโซเพียงชั่วครู่ แล้วนำไปเรียงเป็นชั้นสลับกับส่วนผสมที่ประกอบด้วยไข่, น้ำตาล, และเนยมัสคาร์โปเนตีเข้าด้วยกัน แต่งกลิ่นรสด้วยผงโกโก้ แหล่งกำเนิดของตีรามีซูแหล่งข้อมูลส่วนมากมักระบุว่ามีการทำตีรามีซูเป็นครั้งแรกในอิตาลีราวคริสต์ทศวรรษ 1960 ส่วนผสมพื้นฐานได้แก่ ขนมปังกรอบซาวอย, ไข่แดง, น้ำตาล, เนยมัสคาร์โปเน, กาแฟ และผงโกโก้ (ตามสูตรดั้งเดิมนั้นไม่มีส่วนผสมของเหล้าหรือไข่ขาว) ถึงแม้รูปร่างของขนมปังกรอบจะเอื้อต่อการทำขนมรูปร่างสี่เหลี่ยมมากกว่า แต่ตัวขนมตามสูตรดั้งเดิมก็มีรูปร่างกลม โดยมักจะถูกเรียงประกอบในภาชนะแก้วเพื่อเผยให้เห็นชั้นต่าง ๆ ที่สลับกันไป ส่วนในการทำตีรามีซูสมัยใหม่มักจะเติมครีมที่ตีแล้ว

ฟัวกรา Foie Gras

รูปภาพ
" ฟัวกรา Foie Gras " ฟัวกรา foie gras คือตับห่านหรือเป็ดที่ขุนให้อ้วนเป็นพิเศษ ฟัวกราได้ชื่อว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับทรัฟเฟิล มีลักษณะนุ่มมันและมีรสชาติที่แตกต่างจากตับของเป็ดหรือห่านธรรมดา ต้นกำเนิดที่แท้จริง ของฟัวกราส์นั้น ไม่ได้มาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในประเทศอียิปต์โบราณนั้น ได้เริ่มมีการขุนนก โดยใส่อาหาร เพื่อที่จะบังคับให้อ้วน และต่อมาก็ได้มีกษัตริย์เมืองสปาตาคือ Agesilaus ประเทศอียิปต์ ก็ได้สนใจในการขุนอาหารเช่นนี้เลยได้มีการเผยแพร่เข้ามาในแถบยุโรปและจีนในเวลาต่อมา ตับห่าน หรือ ตับเป็ด ที่ถูกขุนให้อ้วนขึ้นมา เป็นพิเศษ จึงทำให้ตับนั้นมีลักษณะ ที่ใหญ่กว่าตับเป็ดธรรมดา โดยในปีค.ศ. 2005 นั้นทั่วโลกได้มีการผลิต ฟัวกราส์ ประมาณ 23,500 ตัน ซึ่งประเทศฝรั่งเศส นั้นก็เป็นประเทศที่ผลิต ได้มากที่สุดถึง 18,450 ตัน หรือ 75% จากทั้งหมด จะแบ่งเป็น ฟัวกราส์จากตับเป็ด 96% และ ฟัวกราส์จากตับห่าน 4% วันนี้เราก็เลยจะชวนมาทำความรู้จักกับฟัวกราส์กันว่ามีความเป็นมาอย่างไร? “ฟัวกราส์” นั้นถือว่าเป็นอาหาร ที่มีไขมัน และ เส้นใยมาก ซึ่งแต่เดิมนั้นฟัวกราส์

อิตาเลี่ยนซาลามี่ คืออะไร?

รูปภาพ
อิตาเลี่ยนซาลามี่ คืออะไร? Salami คือ อะไร? ถ้าให้พูดสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ มันก็คือ “เนื้อหมู หรือเนื้อวัวดิบบด แล้วนำมาผสมกับไวน์แดง, กระเทียม และ เครื่องเทศหลากหลายชนิด นำไปปรุงรส และตากแห้ง” Salami ถือเปฺ็นไส้กรอกหมักชนิดแห้ง ที่มีการหมักเพื่อให้เกิดกรดแล็กทิก (lactic acid bacteria) ด้วย โดยจุลินทรีย์ที่สร้างกรดแล็กทิก ซาลามี่ถือเป็นที่นิยมอย่างมากแล้วยังสามารถเก็บเอาไว้ในอุณหภูมิห้อง เป็นระยะเวลาถึง 10 ปี ด้วย วิธีการทำ Salami เริ่มจากการเลือกเนื้อหมูหรือเนื้อวัวตามที่เราต้องการและผสมไขมันไปอย่างน้อยประมาณ 30% - 50% นอกจากไขมันจะจำเป็นสำหรับ Salami ทุกแท่งแล้ว หลังจากนี้ก็จะแล้วแต่สถานที่ผลิตว่ามีสูตรและวิธีการทำที่แตกต่างกันไปอย่างไร โดยส่วนใหญ่เครื่องปรุงก็จะมีกระเทียมและพริกไทยครับ หลังจากที่ผสมเนื้อและไขมันเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำไปใส่เครื่องสำหรับฉีดส่วนผสมนี้เข้าไปในไส้หมู ซึ่งไส้หมูจะเป็นเปลือกเพื่อเวลานำไปตากแห้งแล้วเนื้อจะได้ค่อยๆ แห้ง ในปัจจุบัน จะมีสิ่งที่สามารถใช้ทดแทนใส่หมูได้ นั้นก็คือ แป้งที่ทำเลียนแบบ ซึ่งแยกความแตกต่างได้ยาก แต่ไม่ว่ายังไง Sa

อิตาเลี่ยนชีสรวม

รูปภาพ
อิตาเลี่ยนชีสรวม ชีส คือ ผลิตภัณฑ์จากนมซึ่งสามารถผลิตได้จากนมวัวหรือแพะ เป็นต้น ที่ผ่านกระบวนการคัดแยกโปรตีน แล้วนำโปรตีนของนมมาทำการผสมเชื้อรา หรือแบคทีเรีย หรือสารอื่นๆ แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของเนยแข็ง ซึ่งแตกต่างจากเนยที่ทำมาจากไขมันของนม รู้จักชีสกันไปบ้างแล้ว วันนี้เราก็เอาใจคนรักชีสด้วยการเอาเมนู อิตาเลี่ยนชีสรวมมาฝากเป็นเมนูจากร้านอาหาร Venezia Ubon เป็นร้านอาหารสไตส์อิตาเลี่ยน และชีสมีหลากหลายชนิด แตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต วัตถุดิบ และกรรมวิธีการผลิต วันนี้ขอแนะนำชีสที่นำมาทำเป็นเมนูอิตาเลี่ยนชีสรวม เป็นชีสที่คัดสรรคุณภาพและรสชาติมาเป็นอย่างดีแล้วมาดูกันเลยค่ะ - Mozzarella (ชีสมอสซาเรลลา) ชีสมอสซาเรลลาเป็นชีสประเภท Fresh Cheese ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เรียบเนียน สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นที่ไม่แรงมาก มีจุดเด่นที่ความยืด เนื้อเหนียวนุ่ม ความอ่อนนุ่มของ mozzarella - Cheddar cheese (เชดด้าชีส) เป็นชีสที่ได้จากน้ำนมวัวเป็นชีสประเภท Semi-hard cheese หรือชีสกึ่งแข็งนั่นเองค่ะ สีจะออกเหลือง และมีรสเค็มเล็กน้อยจากการเติมเกลือลงไป เลยเหมาะนำมาใส่ในแซนวิชหรือเบอเกอร์ค่ะ

รวมเมนูสลัด สไตส์อิตาเลี่ยน

รูปภาพ
"รวมเมนูสลัด สไตส์อิตาเลี่ยน " สลัด : salad เป็นอาหารที่ประกอบด้วยอาหารชิ้นเล็ก ๆ โดยมากจะเป็นผัก มักเสิร์ฟที่อุณภูมิห้องหรือแช่เย็น ยกเว้นสลัดมันฝรั่งจากเยอรมันใต้ที่เสิร์ฟแบบอุ่น สลัดสามารถทำาจากอาหารชนิดใดก็ได้ที่พร้อมรับปะทาน ใช้ผักใบเขียวเป็นหลัก เช่นผักกาดหอม อารูกูลา(ผักร็อกเก็ต) เคล หรือผักโขม คำว่า "สลัด" มักหมายถึงการ์เดนสลัด สลัดประเภทอื่นได้แก่ สลัดถั่ว สลัดทูนา สลัดกรีก และสลัดโซเมนซึ่งเป็นสลัดญี่ปุ่นที่มีเส้นเป็นส่วนประกอบหลัก สลัด เป็นอาหารที่คนไม่กินผักอาจจะร้องยี้ แต่สาวๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนักอาจจะรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษ (คุมน้ำหนัก น้ำสลัดครีมไม่โอนะจ๊ะ) แต่วันนี้เราจะพามาดูสลัด ที่สวยจนคนไม่กินผักยังอยากจะลองชิมสักครั้ง ใครไม่กินไม่บังคับถือว่าดูเป็นอาหารตาแล้วกันนะคะ ครั้งนี้นำอาหารอิตาเลี่ยน เป็นอาหารที่อยู่ในกลุ่มสลัด หรือรวมเมนูสลัดที่น่าทานมานำเสนอ ไปดูกันเลยค่ะ 1. สลัดเนื้ออกเป็ดรมควัน เนื้ออกเป็ดรมควันสไลด์ เนื้อนิ่ม รสชาติเป็นเอกลักษณ์ หอมกลิ่นรมควัน ราดด้วยน้ำสลัดบัลซามิกรสเปรี้ยวหวาน และผักสดนานาชนิด เติมเต็มควา

คาลโซ่เน่ พิซซ่าพัฟฉบับอิตาเลี่ยน" Calzone Pizza "

รูปภาพ
คาลโซ่เน่ พิซซ่าพัฟฉบับอิตาเลี่ยน" Calzone Pizza " อิตาเลี่ยนคาลโซเน่ พิซซ่าพัฟ แป้งกรอบอร่อย ไส้เยอะชีสทะลัก นำซอสมะเขือเทศ ใส้ซีฟู้ด และชีส ที่ทางร้านเตรียมไว้ใส่ลงไปบนแป้งพิซซ่า ซึ่งหัวใจสำคัญของร้านนี้ คือการใช้วัตถุดิบคุณภาพ ที่ผ่านการคัดสรรด้วยตัวเองทุกขั้นตอน การจับจีบขอบพิซซ่า คืออีกหนึ่งขั้นตอนที่ต้องพิถีพิถัน เพื่อไม่ให้ขอบ 'คาลโซเน่' แตก เพราะต้องผ่านการเข้าตู้อบด้วยอุณหภูมิคงที่ 300 องศาเซลเซียส นาน 5 นาที แป้งบางอิ่มแต่ไม่หนักท้อง พิซซ่าสไตส์อิตาเลี่ยน ด้วยสูตรเด็ดเคล็ดลับเฉพาะของร้าน Venezia Ubon อร่อยจนลืมไม่ลง นอกจากพิซซ่าแล้ว ร้านอาหาร Venezia Ubon มีอาหารให้เลือกลิ้มลองความอร่อยหลากหลายเมนู ร้านนี้ยังมี 'ทีรามิสุ' ขนมหวานสไตล์อิตาเลียนที่คนส่วนใหญ่ต้องสั่งเมนูนี้ตบท้าย ก่อนก้าวเท้าออกจากร้านคะ #Veneziaubon #Pizza Venezia #Veneziaubon #Ubonratchathani #Italianrestaurant #Reviewubon Open everyday: 16:00-00:00 phone: 082-1488889 Inbox:https://www.facebook.com/messages/t/VeneziainUbon Id line: @venezia_ubon G