บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2018

ตำนานสปาเก็ตตี้ เส้นอาหารของอิตาลี

รูปภาพ
"สปาเก็ตตี้ ซีฟู๊ด ห่อด้วยแป้งอบ" สปาเกตตี้ เป็นเส้นชนิดหนึ่งในกลุ่มของเส้นอาหารของชาวอิตาลีที่เรียกว่า พาสต้า (Pasta) มีชื่อออกเป็นภาษาอิตาเลียนอย่างนี้แต่แท้จริงแล้วต้นแบบของพาสต้ามาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวของจีนนั่นเอง โดย มาร์โคโปโล ชาวเมืองเวนิส นักท่องโลกชาวอิตาเลี่ยนผู้โด่งดัง เป็นผู้นำไปเผยแพร่ในอิตาลี ได้ระบุไว้ในบันทึกเรื่องราวการเดินทางไปเมืองจีน ซึ่งเดินทางจากอิตาลี่ ผ่านเส้นทางสายไหม เพื่อไปสู่เมืองจีนในยุคนั้น โดยในบันทึกดังกล่าวนี้จะมีอยู่ตอนหนึ่งที่ มาร์โค โปโล ได้กล่าวถึงกองเรือสินค้าของชาวจีนที่มีอยู่มากมายในเวลานั้น ซึ่งได้ระบุไว้ว่า สิ่งที่มี่ค่ามหาศาลจะมีอยู่สองสิ่งภายในเรือสินค้าจีนก็คือดินปืนและบะหมี่ และในปลาย ค.ส.13 นั้น เชื่อว่า มาร์โค โปโล ผู้นี้เองที่เอาเส้นก๊วยเตี๋ยวหรือบะหมี่จากเมืองจีนกลับไปประเทศอิตาลี่และกลายเป็นเส้น สปาเก็ตตี้ ในยุคนั้น จนทำให้มีการแพร่หลายอย่างมากมายในโลกจนถึงปัจจุบัน "สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า" "สปาเก็ตตี้ อิตาเลี่ยนเบคอน" พาสต้าทำมาจากแป้งต่าง ๆ มีมากมายถึง 70 ชนิด มีส่วนผสมของแป้งและน้ำเป็นหลัก บา

ระดับความอร่อยของเนื้อเต็ก

รูปภาพ
การย่างเนื้อให้ได้ความสุกที่พอเหมาะ ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ด้วยฝีมือเชฟผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการเลือกเนื้อส่วนที่เหมาะสม สำหรับการทำสเต็กถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ที่ทางร้าน Venezia Ubon ให้ความใส่ใจในการเลือกเนื้อที่ดีสุด มาทำเป็นเมนูสเต็ก ที่ให้รสชาติอร่อย เนื้อนุ่ม กลิ่นหอม ใครได้ลิ้มลองต้องติดใจ จนต้องบอกต่อความอร่อยกันเลย ทำไมต้องคุมความสุกของเนื้อสเต็ก!! คนไทยส่วนใหญ่มักชินกับการรับประทานของที่สุกแบบทั่วถึง แต่รู้หรือไม่ว่าความสุกนั้นมีผลต่อรสชาติ และสัมผัสของเนื้อสเต็กเป็นอย่างมาก สำหรับคนรักเนื้อ "Beef Lover" ตัวจริงรู้ดีว่าความสุกระดับ Medium Rare คือความสุกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อสเต็ก ด้วยอุณหภูมิและความสุกในระดับนี้เนื้อจะคลายน้ำออกมาในปริมาณที่เหมาะสม จึงทำให้เนื้อสเต็ก นุ่มชุ่มฉ่ำ ยิ่งกินยิ่งได้อรรถรส แต่คนแต่ละคนก็มีความชอบและรสนิยมที่แตกต่างกัน จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะลองทานระดับความสุกหลายๆ แบบ แล้วจะรู้ว่าเราชอบแบบไหนมากที่สุด ระดับความสุกแบ่งเป็น 6 ระดับ 1. บลูแรร์ (Blue Rare) : สุกแค่ผิวเนื้อด้านนอก ด้านในยังดิบ 2. แรร์ (Rare) : (4

เทศกาล "Beef Lover"

รูปภาพ
เทศกาล "Beef Lover" เป็นเทศกาลของ "คนรักเนื้อ" ซึ่งทางร้าน Veneziaubon ของเราจัดในช่วงเดือนมีนาคมตลอดทั้งเดือน เพื่อเอาใจคนที่ชอบทานเนื้อวัว เป็นพิเศษกับหลากหลายเมนูเนื้อ ให้คุณสามมารถเลือกลิ้มลองเนื้ิอวัวชั้นเลิศได้ถึง 2 สายพันธุ์ นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย 1. Australian Wagyu Beef🐃🐄🥩 “Australian Wagyu Beef” วากิว เป็นราชาเนื้อวัว นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ผ่านวิธีการขุนจากสถานที่มีสิ่งแวดล้อมสวยงามเป็นธรรมชาติ ของแต่ละฤดู ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดกับการขุนวัว ให้อุดมสมบูรณ์เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีเลิศ จนได้เนื้อชั้นดี มีสีเนื้อแดงอมชมพู คล้ายลายหินอ่อน เนื้อแดงกับไขมันสีขาวจะผสานกลมกลืนกัน ทำให้เนื้อนุ่ม ละลายในปาก 2. Australian Pure Black Angus🐃🐄🥩 "Australian Pure Black Angus" แองกัส เป็นอีกสุดยอดเนื้อเกรดพรีเมียมนำเข้าจากออสเตรเลีย ซึ่งคัดสรรเนื้อวัวสายพันธุ์แองกัสแท้ 100 % ผ่านการขุนด้วยธัญพืชพร้อมทั้งสภาพอากาศเหมาะสมที่สุด ทำให้เนื้อมีไขมันแทรก เนื้อนุ่ม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เมนู สุด Hot ในช่วงเทศกาล "Beef Lover&q

ทำความรู้จักกับอาหารอิตาเลี่ยน

รูปภาพ
อาหารอิตาเลี่ยน เป็นอาหารที่คนไทยก็รู้จักกันดี และต้องเคยกินกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า, มะกะโรนี, สปาเก๊ตตี้ เป็นต้น อาหารอิตาเลี่ยนเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ใหม่สดได้มาตรฐาน มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งเรื่องของรสชาติอาหาร การตกแต่งจานที่สวยงามโดดเด่นชวนให้น่ารับประทานมากขึ้น รวมถึงวิธีการปรุงแต่งในแบบสไตล์อิตาเลี่ยนกันอย่างแท้จริง 10 อันดับ เมนูชวนหลงใหล 1. Chicken Parmigiana 🥞🥩🥓 อาหารอิตาเลี่ยนสุดคลาสสิคที่เหมาะจะเป็นไส้ของแซนวิช เนื้อชนิดไหนๆก็ได้นำมาชุบเกล็ดขนมปังแล้วทอดกับชีสเหลว ถือเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมและรสชาติที่ลงตัวที่สุด 2. Fettuccine Alfredo🥞🥩🥓 เป็นอาหารอิตาเลี่ยนที่มีครีมซอสเยอะ ซอสครีม Alfredo ลงตัวกับเส้นพาสต้าแบบกว้างๆ เช่น Fettuccini 3. Lasanha🥞🥩🥓 อีกหนึ่งอาหารสุดคลาสสิค ลาซานญ่าเป็นส่วนผสมของเนื้อ แฮม ชีส และเนย ซึ่งมีส่วนผสมของเนื้อ, ไส้กรอก, Ricotta, ชีส Mozzarella และ Parmesean ถือเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมสุดๆ อบในอุณหภูมที่เหมาะสม จนได้เป็นเมนูสุดพิเศษ 4. Linguine with clam sauce🥞🥩🥓 เป็นซอสหอยลายที่นิยมที่สุด โดยใช้หอย

รสชาติอาหารที่เหมาะกับไวน์

รูปภาพ
           ร้านอาหารอิตาเลี่ยน ในไทย ที่รังสรร อาหารทานคู่กับไวน์ รสดี นำเข้าจากต่างประเทศ 1. รสเค็ม (Salty) กล่าวได้ว่าอาหารรสเค็ม คือคู่เพลย์เซฟของไวน์เลยก็เป็นได้ เพราะรสเค็มในอาหารจะช่วยปรับสัมผัสแอลกอฮอล์, แทนนิน (Tannin) และโอ๊ค (Oak) ให้ลดลงไป ในขณะเดียวกันก็จะเพิ่มสัมผัสบอดี้ (Body) ในไวน์ด้วย โดยเฉพาะเมื่อนำมาแพร์ริ่งคู่กับไวน์ที่มีรสเปรี้ยว หรือเอซิด (Acidity) สูง เพราะอาหารจะช่วยเพิ่มมิติของไวน์ให้มากขึ้น 2. รสหวาน (Sweet) ไวน์ที่มีรสผลไม้โดดเด่น ไม่ควรนำมาจับคู่กับอาหารรสหวาน เพราะนอกจากความหวานในอาหาร จะกลืนรสผลไม้ในไวน์ไปเสียหมดแล้ว ยังดึงความเปรี้ยว, ขม และสัมผัสแอลกอฮอล์ในไวน์ออกมาอีกด้วย แต่สำหรับท่านที่ชอบรสเปรี้ยวอมหวาน การแพร์ริ่งแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลองค่ะ เคล็ดลับการจับคู่อาหารรสหวานกับไวน์ คือการเลือกไวน์ที่มีระดับความหวานเท่ากับเมนูนั้นๆ ตัวอย่างที่เห็นอยู่บ่อยๆ ก็คือการจับคู่ไวน์หวาน (Dessert Wine) กับของหวานนั่นเอง 3. รสอูมามิ (Umami) คำนี้หมายถึง “รสกลมกล่อม” ของอาหารซึ่งอธิบายได้ไม่ง่ายนัก เพราะอูมามินั้นแตกต่างจากรสหวาน, เค็ม และเปรี

หลากหลายเมนูอิตาเลี่ยน

รูปภาพ
ร้าน Venaziaubon เป็นร้านอาหารที่มีสไตล์การจัดจานอาหารแบบอิตาเลี่ยนหลายๆแบบ โดยทั่วไปลูกค้าที่เลือกรับประทานอาหารกับร้าน เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องรสชาติอาหาร พร้อมทั้งบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ และโรแมนติก ส่วนมากการทานอาหารอิตาเลี่ยนนิยมทานคู่ไวน์หลายๆแบบจากอิตาเลี่ยนและทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มมากมายหลายชนิด ให้คุณได้เลือกรับประทานคู่กับอาหารที่ชื่นชอบ เมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่เชิญชวนให้คุณลอง อาหารอิตาเลี่ยนถูกพัฒนามาหลากหลายศตวรรษด้วยกัน ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสังคมและการเมืองในแต่ละยุคแต่ละสมัย จนมาถึงปัจจุบัน แล้วอาหารอิตาเลี่ยนในหลาย ๆ เมนูเป็นอาหารที่ทำง่าย เตรียมวัตถุดิบไม่อยากนัก บางเมนูใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 4-8 ชนิด ซึ่งหลักสำคัญของการทำอาหารอิตาเลี่ยนนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพวัตถุดิบมากกว่าการปรุงอาหาร และด้วยประวัติของเมนูหลายๆ ชนิดที่ถูกคิดค้นจากรุ่นสู่รุ่น อาหารอิตาเลี่ยนเป็นเมนูที่มีความหลากแตกต่างกันแล้ว แต่การนำไปใช้ในการตกแต่งจาน ซึึ่งมีทั้งผลไม้, ผัก, ซอส, เนื้อ และอื่น ๆ เป็นต้น วัตถุดิบหลักในการทำอาหาร จะเป็นพวกปลา, มันฝรั่ง, ข้าว, ข้าวโพด, ไส้กรอก, เนื้อหมู

Venezia สุดยอดร้านอาหารอิตาเลี่ยน

รูปภาพ
ประวัติความเป็นมา ร้าน Venezia หลายคนอาจจะอยากรู้ถึงประวัติความเป็นมาของร้าน ก่อนที่จะมาเป็นร้านเวเนเซีย อย่างที่ทุกท่านเห็นทุกวันนี้ ผู้ก่อตั้งร้านเวเนเซียค่อนข้างที่จะโปรดปรานร้านอาหารอิตาเลียนเป็นอย่างมาก และเมื่อได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเวนิส แคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้พบเจอ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมอันงดงามและอาหารอิตาเลียนแท้ๆที่เป็นรสชาติดั้งเดิม จึงเกิดความประทับใจเป็นอย่างมาก จึงก่อให้เกิดแนวคิดริเริ่มสร้างร้านอาหารเวเนเซียขึ้นมา เพื่อเปิดโอกาสให้คนอุบลและจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศและอาหารอิตาเลียนอย่างที่ตนได้สัมผัสบ้าง คอนเซ็ปของร้านเวเนเซียคือ “wine dine & unwind” ด้วยการตกแต่งแบบ Loftstyle เน้นหรูหรา ผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นเวนิสที่ลงตัวอย่างมีระดับ ตัวร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Indoor และ Outdoor พร้อมการจัดโต๊ะอาหารแบบ Formal Dinner Setting ให้ความหรูหราและผ่อนคลายไปกับเสียงดนตรีคลาสสิคสไตล์ Bossa อันเป็นรูปแบบเฉพาะของร้านเวเนเซีย นอกจากนั้นร้านเวเนเซียยังเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและนำเข้าจากแหล่งผลิตเพื่อรังสรรค์อาหารออกมาให้ได้รสชาติดั้งเด