7 เครื่องเทศที่สำคัญของอาหารอิตาเลี่ยน

7 เครื่องเทศที่สำคัญของอาหารอิตาเลี่ยน

ในปัจจุบันนี้สมุนไพรฝรั่ง (Herb) เป็นที่นิยมในการนำมาเป็นเครื่องเทศบ้านเรามากขึ้น เพราะคนไทยนิยมทานอาหารอิตาเลี่ยนกันมากขึ้นนั่นเองค่ะ สมุนไพรฝรั่งก็มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีวิธีการปรุงอาหารและสรรพคุณต่างกันด้วย เรามาทำความรู้จักกับพวกมันกันเลยดีกว่าค่ะ

1.มินต์ (Mint)

มินต์หรือสะระแหน่ เป็น สมุนไพรฝรั่ง ที่นิยมกันอย่างแพร่หลายมากๆ ใช้เป็นเครื่องเคียงหรือเป็นตัวช่วยในการปรุงอาหารประเภทเนื้อ แต่ที่นิยมมากก็จะนำมาตกแต่งหน้าและกินแกล้มเนื้อมากกว่าใช้ปรุง อีกทั้งนิยมทำเป็นซอส กินแกล้มกับเนื้อแกะได้ด้วยนะ และมินต์ยังสามารถใช้ประกอบเครื่องดื่มได้หลายประเภท ทั้งน้ำผลไม้ ชามินต์ หรือผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อปรุงรส เช่น โมจิโต ก็ได้ค่ะ มินต์มีกลิ่นหอมซ่าส์ และรสชาติที่หอมเย็นเป็นเอกลักษณ์ เเละมินต์มียังมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ ลดอาการปวดฟัน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

2. ออริกาโน (Oregano)

ออริกาโนเป็นพืชตระกูลเดียวกับมินต์ เป็นเครื่องเทศที่คู่ครัวอาหารอิตาเลี่ยนเลยล่ะค่ะ อย่างที่เราๆ ชอบนำเอาผงออริกาโนมาโรยบนหน้าพิซซา เพราะว่ามันมีกลิ่นหอมและทำให้พิซซาอร่อยขึ้น แต่จริงๆ แล้วออริกาโนสามารถทานได้ทั้งแบบสดและแบบแห้งเลยนะคะ มีสรรพคุณมากมาย ช่วยกำจัดไขมันในเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีฤทธิ์ร้อน แก้ปวดกล้ามเนื้อ ใบสดๆ มีกลิ่นหอมแรงแต่ไม่เท่ากับแบบแห้ง หรือจะสกัดเป็นน้ำมันก็ได้นะคะ

3. พาร์สลีย์ (Parsley)

พาร์สลี่ย์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าผักชีฝรั่ง มีทั้งแบบใบแบนและใบหยักค่ะ ใบแบนจะมีกลิ่นหอมเข้มกว่านิยมใช้ปรุงอาหาร แต่แบบใบหยักจะนิยมนำมาตกแต่งหน้าอาหารมากกว่า มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและลักษณะใบที่สวยงาม หรือจะนำมาสับแล้วโรยหน้าอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวก็ได้ค่ะ พาร์สลี่ย์อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สูงมาก พาร์สลี่ 1 ถ้วย จะมีเบต้าแคโรทีนมากกว่าแครอทหัวใหญ่ 1 หัว มีวิตามินซีมากกว่าส้ม 1 ลูกถึง 2 เท่า มีแคลเซียมมากกว่านม 1 แก้ว และยังมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีกลิ่นหอมทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น ช่วยขับถ่ายปัสสาวะ และยังมีสารที่ช่วยทำให้ผิวสวยด้วย โดยการนำใบพาร์สลี่ย์มาสับให้ละเอียดแล้วห่อด้วยผ้าบางๆ แช่ให้เย็น แล้วนำมาประคบบริเวณที่เป็นสิวบวมอักเสบทุกเช้าเย็น ก็จะช่วยลดความอักเสบจะทำให้ผิวหน้าของเราสะอาดและดูอ่อนเยาว์ด้วยหล่ะ

4. เบซิล (Basil)

เบซิลหรือโหระพาฝรั่ง มีทั้งสีม่วงและสีเขียว เป็นเครื่องปรุงสำหรับอาหารอิตาเลี่ยนเช่นใช้ทำซอสเพสโต หรือที่เราเรียกว่าซอสโหระพานั่นเอง หรือนิยมทานสดแกล้มกับอาหารอิตาเลี่ยนก็ได้เพราะมีกลิ่นหอมทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นคะ

5. โรสแมรี่ (Rosemary)

โรสแมรี่เป็นพืชที่นิยมใช้ทั้งตกแต่งจาน หรือนำไปปรุงอาหารก็ได้ ทั้งอาหารประเภทเนื้อ ไก่ แกะ แพะ มันฝรั่ง หรือใช้หมักเนื้อร่วมกับกระเทียม ทำซุปหรือซอสก็ได้ หรือถ้านำไปอบจะมีกลิ่นหอมมาก ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีมากเลยค่ะ หรือใช้แบบสดทำเป็นสลัดร่วมกับผักอื่นๆ ก็เหมาะ อีกทั้งยังนิยมนำไปทำเป็นน้ำมันหอมระเหยได้อีกด้วยนะ เพราะทั้งใบและก้านมีกลิ่นหอมมาก และแบบแห้งก็สามารถนำมาชงเป็นชาดื่มได้นะ ส่วนสรรพคุณของโรสแมรี่ก็คือช่วยคลายประสาท เพิ่มความจำ ต้านอนุมูลอิสระ และยังบรรเทาอาการอักเสบได้อีกด้วย

6.ไธม์ (Thyme) (Sage)

ไธม์ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นกลิ่นคล้ายเลมอนอ่อนๆ เหมาะสำหรับปรุงอาหารเมนูเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ ปลา และอาหารทะเล มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร เป็นเครื่องเทศที่ไม่เด่นมากแต่ก็ขาดไม่ได้เลยในครัวฝรั่งเศษ เป็นส่วนประกอบหลักในสตูว์ เข้ากับของปิ้งย่างได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นอาหารที่ใส่ไวน์ นิยมใช้ร่วมกับโรสแมรี่ พาร์สลี่ย์ ออริกาโน เพื่อเสริมกลิ่นหอมให้อาหาร มีสรรพคุณรักษาอาการไอ รักษาหลอดลมอักเสบได้ รักษาอาการมีแก๊สในลำไส้ได้อีกด้วยนะคะ

7. เสจ (Sage)

เสจ อาจจะไม่เป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูกันมากนัก เพราะมักจะใช้ควบคู่กับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เข้ากับอาหารที่มีไขมันเยอะๆ เช่น ห่าน หมู หรือใช้ยัดไส้เนื้อจำพวกสัตว์ปีก ใช้มากในครัวฝรั่ง มีรสเผ็ดซ่า กลิ่นคล้ายพริกไทย แต่ไม่ควรใส่มากเพราะจะทำให้รสเฝื่อนและมีกลิ่นแรงเกินไป มีสรรพคุณรักษาอาการเบื่ออาหาร เพิ่มประสิทธิภาพความจำ และยังเป็นสมุนไพรที่ช่วยปรับสมดุลประจำเดือนของผู้หญิงอีกด้วย สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยก็จะนิยมใช้ในสปา เพราะจะลดความเครียด ช่วยให้รู้สึกสงบค่ะ